มดตะนอย มดที่ฆ่าคนมาแล้วทั่ว Asia ใครๆก็รู้จักชื่อมดตะนอย แต่จะมีสักกี่คนที่รู้มดตะนอยนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร??

มดตะนอย มดที่ฆ่าคนมาแล้วทั่ว Asia ใครๆก็รู้จักชื่อมดตะนอย แต่จะมีสักกี่คนที่รู้มดตะนอยนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร??

มดตะนอย มดที่ฆ่าคนมาแล้วทั่ว Asia ใครๆก็รู้จักชื่อมดตะนอย แต่จะมีสักกี่คนที่รู้มดตะนอยนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร??

มดตะนอยสำหรับคนที่แพ้ โดนมดต่อยแค่ 1 ทีก็ตายได้ ซึ่งไม่มีใครหรอกที่จะรู้ตัว ว่าแพ้หรือไม่แพ้ จนกระทั่งโดนเข้าจริงๆ

ช่วง 3-4 วันนี้ มีคนไม่ต่ำกว่า 5 คน ทั้งในกลุ่มและ Inbox ส่วนตัวถามเกี่ยวกับมดตะนอยว่านี่คือมดอะไร? ตอนแรกผมคิดว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้โพสทีหลัง แต่มีหลายคนถามเรื่องมดชนิดนี้ แถมตอนนี้ก็ใกล้จะช่วงปีใหม่แล้ว หลายๆคนคงออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ มดตะนอยเป็นมดที่พบได้ทั่วๆไปในประเทศไทย มีคนบอกว่า เจอที่ในสวนรถไฟจตุจักร และสวน 100 ปี จุฬา ผมเคยคิดว่ามดชนิดนี้น่าจะเจอได้ตามพื้นที่ต้นไม้ต่างจังหวัด ไม่คิดว่าจะเจอได้ในพื้นที่ต้นไม้เขตเมืองขนาดนี้ จึงคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆที่หลายๆคนควรจะรู้เอาไว้

** นี่เป็นเรื่องสำคัญที่หลายๆคนควรจะรู้ไว้นะครับ มีลูกมีหลานอย่าลืมเตือน สีมันสวยก็จริง แต่โดนต่อยไม่ใช่เรื่องสนุกแน่นอน ในต่างประเทศมีข่าวมดชนิดนี้ต่อยเด็กตาย ขนาดผู้ใหญ่ยังตาย เด็กจะไปเหลืออะไร

มดตะนอยที่พบเจอได้บ่อยมากๆๆวัดจากข้อมูลในอินเตอร์เน็ตที่มีคนพูดถึง คือ Tetraponera Rufonigra หรือ มดตะนอยอกส้ม เป็นมดที่เจอได้ตั่งแต่แถบ อินเดีย ศรีรังกา ลากยาวไปจนจรดเวียดนาม เลยทีเดียว โดยมดชนิดนี้จะชอบอยู่อาศัยทำรังในต้นไม้ โดยเฉพาะพวกตอไม้พุๆทั้งหลาย เอาเป็นว่า ถ้าเจอมดที่มีรูปร่างแบบนี้ ตัวเรียวๆยาวๆ ตูดแหลมๆ พยายามอย่าไปยุ่งกับมันนะครับ แม้กระทั่งพวก Trap Jaw ที่หลายๆคนเจอหรือเลี้ยงอยู่ก็กัดและต่อยนะครับ ไม่เชื่อลองดูได้ ลองแล้วมาบอกด้วย

สำหรับคนที่โดนมดชนิดนี้ต่อย ถ้าคนคนนั้นมีการแพ้พวกเหล็กในของแมลง ก็จะเกิดอาการ Anaphylaxis Shock ตอนแรกผมว่าจะแปลเป็นไทยให้อ่าน แต่ นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เคยสัมภาษณ์เอาไว้ค่อนข้างจะเข้าใจง่าย ผมเลยขอ copy มาทั้งดุ้นเลยละกัน

“อันตรายของมดตะนอย เกิดจากการที่มดตะนอยต่อยด้วยเหล็กใน ซึ่งการต่อยของมดจะแตกต่างจากผึ้ง คือ มดเมื่อต่อยแล้วจะสามารถดึงเหล็กในกลับ ทำให้สามารถต่อยได้หลายครั้ง ผู้ถูกต่อยจะถูกต่อยซ้ำๆ ด้วยมดตัวเดิม ในขณะที่ผึ้งจะต่อยเพียงครั้งเดียวแล้วทิ้งเหล็กในไว้ที่แผลของผู้ถูกต่อย เหล็กในที่ยื่นออกมาจากปลายท้องมดจะเชื่อมต่อกับต่อมพิษที่อยู่ภายในท้อง ซึ่งต่อมพิษจะผลิตสารประกอบโปรตีน และสารอัลคาลอยด์ และสารที่ทำให้ผู้ถูกต่อยเกิดอาการแพ้คือสารประกอบพวกโปรตีน โดยสารโปรตีนเหล่านี้จะทำให้ผู้ถูกต่อยมีอาการต่างๆ เช่น เจ็บปวดบริเวณแผล แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก อาเจียน ซึ่งหากบางรายที่แพ้รุนแรงถ้ารักษาไม่ทันอาจทำให้เสียชีวิตได้ และไม่เฉพาะแต่มดตะนอยเท่านั้นที่มีเหล็กในและมีต่อมพิษ มดชนิดอื่นๆ เช่นมดคันไฟก็มีสารพิษที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน” นพ.บุญชัย กล่าว

ในกรณีของคนที่แพ้

รศ.นพ.วินัย วนานุกูล ภาควิชาอายุรศาสตร์ และ ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า

อาการแพ้พิษจากแมลงสามารถสังเกตได้ โดยอาการเริ่มต้นจะมีผื่นบวมแดงขึ้นตามตัวอย่างผิดปกติ บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสียร่วมด้วย ตามมาด้วยอาการหายใจลำบาก อึดอัด แน่นหน้าอก ความดันเลือดตก ซึ่งจะเป็นอันตรายหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยระยะเวลาในการแสดงอาการจะต่างกันออกไป ตั้งแต่เป็นนาที จนถึงเป็นชั่วโมง เมื่อได้รับพิษจากแมลง สัตว์ และเกิดอาการแพ้โดยมีอาการเหมือนข้างต้น จะต้องไปพบแพทย์ทันที เพราะ หากปล่อยให้อาการหนักจนถึงขั้นหายใจไม่ออก ความดันตก จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม สามารถรักษาได้แต่ต้องไปพบแพทย์ให้ทันเวลา ส่วนการกินยาแก้แพ้เพื่อรักษาตนเองนั้นมักจะไม่ได้ผลทันเวลา โดยเฉพาะถ้าเป็นอาการแพ้ชนิดที่รุนแรง จำเป็นต้องให้ยาอีกชนิดหนึ่งชื่อ เอพิเนฟริน (epinephrine) หรืออะดรีนาลิน (adrenalin) และต้องฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือใต้ผิวหนังเพื่อขยายหลอดลมและเพิ่มความดันโลหิตโดยตรง ซึ่งยาจะออกฤทธิ์ทันทีจึงจะสามารถช่วยได้ทัน ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากช้าเกินไปจนสมองขาดออกซิเจนก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน

แล้วในกรณีของคนที่ไม่แพ้หละ?

หลังจากโดนต่อย อาจจะบวม แดงซ้ำๆ เจ็บปวด หรือ ปวดมากๆๆๆ ชา ตามปกติเหมือนคนโดนแมลงต่อย แต่อาการอาจจะอยู่ยาวเป็นอาทิตย์ ถ้าโดนต่อยทีเดียว ก็ดีไป แต่ถ้าโดนต่อยหลายๆที่หละ??

มดตะนอยนั้นมีความดุร้ายมากๆ การันตีโดยผู้เลี้ยงมดชนิดนี้จากที่ผมอ่านมา คือมันพร้อมที่จะกัด และ ต่อย ทุกสิ่งทุกอย่างที่รุกรานมัน แค่เอาไม้ไปแหย่ๆมันก็กัดและต่อยแบบเอาเป็นเอาตายให้ได้แล้ว

อย่างที่นายแพทย์บอกครับ มดสามารถต่อยได้หลายครั้ง โดยเหล็กในของมดสามารถผลุบเข้าออกได้ ต่างกับผึ้งที่ต่อยแล้วเหล็กในจะหลุดออกจากตัวติดกับสิ่งที่มันต่อย

สมมุตินะครับ ว่าคุณไปนั่งทับ ไปเอามือไปวางโดนตัวมันโดยไม่รู้ตัว หรือ ถ้าคุณไปนั่งอยู่ใกล้ๆรังมดชนิดนี้ แล้วมดเดินไต่เข้าไปในเสื้อหรือกางเกง ตอนที่คุณไม่รู้ตัว เมื่อคุณขยับตัวแล้วส่วนของผ้าไปทับบางส่วนของมด จนมดขยับไม่ได้ มดจะรู้สึกได้ถึงการถูกรุกราน และมันจะกัดหรือต่อยคุณแน่นอน โดยมันจะกัดหรือต่อยคุณไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะหลุดพ้น โดยผมได้ลองทำการทดลองดูโดยการจับขาข้างหนึ่งของมดเอาไว้ มดจะกัดๆๆจนกว่าเราจะปล่อยขามัน

ขอบคุณครับ

 

ประสบการณ์ตรงจากผู้โดนต่อย โดย ครูเนย์ สุภลัคน์ ทุ่งสะโร

https://www.gotoknow.org/posts/558206

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับตัวเองค่ะ

ย้อนกลับไปแล้วนึกแปลกใจไม่หายใครจะนึก ว่าไอ้มดตัวเล็กๆ จะทำเอาเราเกือบตายได้ ก่อนหน้าประมาณ 11 ปีเห็นจะได้ ตอนนั้นตัวเราเองทำงานอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ที่ทำงานมีบ้านพักให้อยู่ ที่บ้านจะมีราวตากผ้ากลางแจ้งอยู่ใกล้ต้นไม้ แล้วช่วงเวลากลางวันจะมีมดชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่ตามใต้ต้นไม้บางครั้งก็ไต่ตามลวดของราวตากผ้า ลักษณะเป็นมดตัวใหญ่ๆ ตัวแดง หัวดำ ตูดดำ ช่วงไหนที่ตากผ้าเสร็จ ถ้าผ้าแห้งแล้วเก็บโดยไม่สะบัดผ้าให้ดีจะเห็นเจ้ามดนี่ติดมากับผ้าด้วยประจำ ที่บ้านพักอยู่กันหลายคนค่ะ และเกือบทุกคนก็จะโดนเจ้ามดนี่กัด ตัวเราก็โดน โดนแรกๆ ไม่เป็นไรเลย แค่เจ็บๆคันๆ แต่คันนี่คันมากแล้วก็คันนานเป็นอาทิตย์เลย หลังๆ โดนอีก ปรากฏว่าจากแค่เจ็บๆคันๆ เริ่มปวดร่วมด้วย มีอยู่ครั้งกัดเข้าที่มือ แต่ปวดร้าวตลอดทั้งแขน ตั้งแต่มือจนถึงหัวไหล่ คืนนั้นแทบไม่ได้นอนเพราะพอขยับตัวก็ปวดเมื่อยสุดๆ หลังๆเริ่มเลี่ยง ทุกครั้งที่จะเอาผ้ามาใส่จะสะบัดแล้วสะบัดอีก ให้แน่ใจว่าไม่มีมดนี่อยู่แน่นอน แต่แล้วมันก็ถึงคราวซวยจนได้ วันนั้นเตรียมตัวจะกลับมาเยี่ยมบ้านที่หาดใหญ่ ซื้อตั๋วรถไฟไว้แล้วด้วย ตื่นลุกขึ้นมาตั้งแต่ตี 4 ตี 5 ลุกมาแล้วก็มานั่งสวดมนต์ทำวัตรเช้า และคงไม่ดูให้ดีว่าตรงที่ตัวเองนั่งมันมีมด มดมันเลยเข้าไปในกางเกงนอน พอขยับตัวมันเลยต่อยเอาที่ขาอ่อน ยิ่งขยับก็ยิ่งต่อย ปวดมากเลยลงมาผลัดผ้าดู ป๊าดมันต่อยจนตัวมันติดกับขาอ่อนเราเลย เอาตัวมันออกไปซักพัก แค่ไม่กี่นาทีรู้สึกชาปาก ชาลิ้น เหมือนริมฝีปากหนาขึ้นมาคล้ายๆเวลาเราฉีดยาชาเพื่อถอนฟันยังไงยังงั้นเลย.. ทีนี้รู้ตัวแล้วว่าแพ้พิษมันแน่นอน เลยเรียกเพื่อนๆที่อยู่บ้านพักเดียวกันให้ไปส่งที่ศูนย์พยาบาล (ที่ทำงานมีศูนย์พยาบาลด้วยค่ะ) เพื่อนๆก็เตรียมตัว เราก็ออกมาล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้า แป๊บเดียวเท่านั้น ไม่ถึง 5นาที มองอะไรไม่เห็นแล้ว รู้แต่ว่าฟ้าเริ่มสางแล้วคือยังมีสติ แต่กระทั่งลายมือตัวเองก็ไม่เห็น มันเหลืองไปหมด กลัวมากเลยตอนนั้น เพื่อนๆมาประคอง ได้ยินพวกเพื่อนมันบอกว่า ปาก เล็บเราเขียวหมดแล้ว ก็ไปตามรถของ รปภ. ระหว่างนั่งรถไปก็ปวดท้องเหมือนจะถ่ายหนักนะ ปวดมาก พอถึงศูนย์พยาบาล มีบุรุษพยาบาลอยู่พอดี เค้ามาวัดความดันเรา ได้ยินเค้าบอกว่าต่ำจนวัดไม่ได้ แล้วก็ได้ยินเค้าโทรศัพท์ไปหาพี่ที่เป็นหมออยู่ที่บ้านพักอีกที่ จากนั้นเราก็ไม่ได้ยินไรอีกเลย จำไรไม่ได้อีก มารู้สึกตัวอีกที 10 โมงเช้า นอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียง นึกเลยนะว่าวันนั้นถ้าที่ทำงานเราไม่มีศูนย์พยาบาลเราคงตายไปแล้ว ต่อมาเลยได้รู้ว่ามดที่กัดเรานะเค้าเรียกมดตะนอย

วันนั้นซื้อตั๋วเตรียมกลับบ้านที่หาดใหญ่แล้วยังไงก็ต้องกลับให้ได้ นอนให้น้ำเกลือหมดแล้วก็ออกมานั่งรถไปหัวลำโพงกลับบ้าน พอถึงบ้านแม่พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลหาดใหญ่วันนั้นเป็นวันหยุด เลยหาคลินิกนอกเวลา หมอก็ให้แค่ยาแก้อักเสบมากิน ตรงรอยมดกัดมันม่วงจนดำเป็นวงกว้างน่ากลัวมาก ตอนเย็นวันนั้นแม่เราเลยพาไปหาหมอสมศักดิ์ซึ่งเป็นหมอผิวหนังโดยตรง ที่อยู่หลังตลาดสดหาดใหญ่ หมอเค้าเลยจ่ายอะดรีนาลินให้เราพก พร้อมเข็มฉีดยา บอกถ้าเราโดนอีก ให้ฉีดอะดรีนาลินเข้าใต้ผิวหนังตัวเองก่อนไปหาหมอ จะช่วยกันหัวใจหยุดเต้นได้ บวกลบ3 ชั่วโมง ก่อนถึงมือหมอ เฮ้ยเราเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ หมอบอกถ้าคนแพ้มันก็มีแนวโน้มจะแพ้อีก เราก็เลยถามหมอว่าแล้วทำไมตอนแรกเราก็เคยโดนมดตะนอยกัดแต่ไม่เป็นไร หมอบอกว่าช่วงแรกมันจะยังไม่แพ้เพราะร่างกายเรายังไม่รู้จักพิษมัน พิษมันคือแอนตี้เจน พอโดนหลายๆครั้งเข้าร่างกายมันก็สร้างแอนติบอดี้ บลาๆๆ เราก็เลยถามต่อว่าวันนั้นเราเกือบตายจริงใช่มั้ย หมอบอกใช่เลย ลักษณะนี้นะเค้าเรียกช็อกคือถ้าไม่ได้ยาแก้แพ้ตายแน่นอน เพราะความดันต่ำจนวัดไม่ได้ ม่านตาก็ขยายแล้วด้วย ที่ปวดท้องถ่ายหนัก ก็ใช่ แล้วที่เราหลับไม่รู้เรื่องเพราะหมอที่่ศูนย์พยาบาลนั้นคงฉีด CPM แก้แพ้ให้ พอหายแพ้ มันก็หายแบบปลิดทิ้ง เหมือนไม่ได้เป็นไรเลย เราก็เที่ยวพกไอ้อะดรีนาลินนี่แหละพกไปพกมาอยู่หลายปี จนย้ายบ้านพัก .. ยาก็หมดอายุ แล้วก็ไม่ได้หามาพกอีกเลย

มดตะนอยต่อยคนตาย

https://www.doctor.or.th/article/detail/1494

ต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙ มีผู้เสียชีวิต เนื่องจากถูกมดตะนอยต่อยเพียงตัวเดียว ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ ผู้เสียชีวิตรายนี้ เป็นชายไทยอายุ ๓๙ ปี ถูกนำตัว ส่งโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ในสภาพโคม่า เป็นเจ้าชายนิทรา ๖ วัน ก็เสียชีวิต ญาติใกล้ชิดที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ตนและผู้ตายออกไปหาปลาในแม่น้ำน่าน ขณะกำลังหาปลาอยู่นั้นผู้ตายร้องด้วยความ ตกใจบอกว่าถูกมดตะนอยต่อย จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ ปกติแล้วผู้ตายเป็นคนแพ้มดและแมลงที่มีเหล็กในอย่างรุนแรง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกมดกัดและผึ้งต่อยจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แพทย์เคยเตือนให้ระมัดระวังตัว ขณะที่เข้าไปช่วยเหลือ ผู้ตายนอนหมดสติและ มีมดตะนอยขนาดใหญ่กัดติดอยู่ที่ง่ามมือ ระหว่างนำส่งโรงพยาบาล อาการทรุดหนัก หน้าดำคล้ำ และเป็นเจ้าชายนิทราตั้งแต่นั้น แพทย์ผู้รักษาแจ้งให้ทราบว่าอาการแพ้อย่างรุนแรง ทำให้ผู้ตาย หายใจไม่ออก อาการหน้าดำ เนื่องจากอาการแพ้ที่เกิดขึ้นทำให้หลอดลมในปอดหดตัว จนทำให้ลมหายใจ ไม่สามารถเข้าไปในถุงลมปอดเพื่อฟอกเลือดได้ ภาวะแพ้ชนิดนี้มักจะทำให้ความดันเลือดลดลง ทำให้ร่างกายและสมองขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง เซลล์สมองตาย ช็อก หมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

Start typing and press Enter to search